วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Q400 นกเหล็กหน้าใหม่ มีดีอะไรกัน ?


NOK AIR - BOMBARDIER DASH8 Q400 (HS-DQC) @ DMK




ไม่อารัมภบทเยอะ เข้าเรื่องกันเลย

ผมเองสงสัยมานานเเล้วว่า สายการบินชื่อดังเเห่งนึง ทำไมถึงเลือกที่จะเอาเครื่อง Q400 มาเเทน ATR

หรือถ้าว่ากันตรงๆคือ Q400 มีดีอะไรกัน !!??

ประกอบกับผมเองมีข้อมูลเครื่อง Q400 น้อยมาก

จากสองเหตุผลดังกล่าว มากพอที่จะทำให้ผมตัดสินใจเข้าเว็บไซต์ผู้ผลิตอย่าง "บอมบาเดียร์"

หรือบางคนจะเรียก "บอมบาดิเย่" ก็เเล้วเเต่

เเละพบข้อดีหลายๆอย่าง ที่ผู้ผลิตได้ให้ข้อมูลไว้ 

ขออนุญาตแปลมาให้อ่านกันครับ 

ดังนี้...

- เครื่องยนต์ PW150A ของ Q400 มีกำลังต่อเครื่องมากกว่า PW127s ของ ATR ราวสองเท่า ! 


เเต่ทั้งสองรุ่น มีน้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุดต่างกันราว 6 ตัน (Q400/29.2 ตัน & ATR/22.8 ตัน)

- ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมการใช้เครื่องยนต์ที่เรียกว่า FADEC (Full Authority Digital Engine Computer) 
ทำให้ใช้เครื่องยนต์ได้อย่างคุ้มค่า เเละประหยัด 
(เเต่ผมเข้าใจว่า ATR72-600 รุ่นใหม่ ก็น่าจะมีครับ)

- กลีับใบพัดจาก Dowty ทำจากวัสดุผสม (คอมโพสิท) น้ำหนักเบา เเข็งเเรง ทดการกัดกร่อน ซ่อมบำรุงง่าย

* วัสดุผสมคือการนำวัสดุตั้งเเต่สองชนิดขึ้นไปมารวมกันเพื่อสร้างเป็นวัสดุชนิดใหม่

โดยวัสดุเดิมทั้งสองชนิด "ไม่ละลาย" รวมกันเป็นเนื้อเดียว เป็นการเอาข้อดีของวัสดุเเต่ละชนิด มาเสริมกัน

- จอสี LCD เเสดงผลการบิน 5 จอ + HUD-Head Up Display

(หน้าจอใสๆ เเสดงข้อมูลสีม่วง/เขียว เหมือนในเครื่องบินรบ) 
ลดภาระงานของนักบินได้มา่ก ไม่ต้องละสายตาไปมองจอเเสดงผล ขณะนำเครื่องขึ้น/ลง

- พิสัยบินไกลกว่า ATR ราว 500 ไมล์

- การใช้น้ำมันมีประัสิทธิภาพ เเละ ประหยัดกว่า 30-50% เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องบินเจ็ท

(จากผลการทดสอบที่เส้นทางบินระยะทาง 300 ไมล์ทะเล) เเละ 2% เมื่อเปรียบเทียบกับ ATR
(หรือคู่เเข่งอื่นๆ ที่มีสเปคใกล้เคียงกัน)

- จากกำลังเครื่องยนต์ที่มากกว่า ทำให้เครื่องบินมีประสิทธิภาพในการทำการบินขึ้นลงจากสนามบิน

ที่มีภูมิประเทศเป็นภูเขาสูง รวมถึงการบินไต่ผ่านภูมิประเทศ ใช้เวลาน้อยกว่า (Terrain clearance) ราว 40%

- ที่น้ำหนักบรรทุกเท่ากัน Q400 ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าเครื่องบินเจ็ทราว 30-40%

เเละน้อยกว่าคู่เเข่งราว 2% คิดเป็นน้ำหนัก 6,000 ถึง 8,000 ตัน ต่อปี

- Q400 รุ่นความจุสูง (86ที่นั่ง) ช่วยให้สายการบินประหยัดต้นทุนน้ำมันต่อที่นั่ง (cost per seat) ได้ 2%

เเละลดต้นทุนรวมต่อเที่ยวบิน ได้กว่า 12% (คิดจากเส้นทางบินระยะทาง 300 ไมล์มะเล)

* รุ่นความจุสูง (86ที่นั่ง) เป็นการลดพื้นที่ห้องสัมภาระ เหลือ 365 ลูกบาศก์ฟุต (seat pitch 29 นิ้ว)

- ห้องโดยสารเเคบกว่า ATR ราว 7 เซนติเมตร (ข้อเสีย?)

- ที่น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด Q400 ใช้ทางวิ่งสั้นกว่าในการวิ่งขึ้น ราว 200 เมตร

- ความเร็วบินเดินทางสูงสุด 360 นอต มากกว่าคู่เเข่ง 75 นอต (1นอต = 1.85 กิโลเมตร)

- การออกเเบบประตูห้องโดยสารของ Q400 ทำให้สามารถขนถ่ายผู้โดยสารผ่านสะพานเทียบได้ (Docking)

- เสียงเบากว่าเครื่องบินเจ็ท 10-15 เดซิเบล (ภายนอก)

- มีชุดอุปกรณ์ APU เเยกต่างหาก ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายภาคพื้นเเละค่า่ซ่อมบำรุงได้ราวปีละ 80,000 เหรียญสหรัฐ
(ประมาณ 2.5 ล้านบาท)

- การใช้เทคโนโลยี ANVS ทำให้เสียงเงียบลงเเละลดการสั่นไหว ส่งผลดีต่อการสื่อสายภายในอากาศยาน
ลดความเหนื่อยล้าของผู้ปฏิับัติงาน ทำให้การบินมีความราบรื่นเเละปลอดภัยมากขึ้น

..................................

* ANVS - Active Noise and Vibration Suppression System

เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ไมโครโฟนขนาดเล็กติดตั้งอยู่ภายในห้องโดยสาร ณ ตำเเหน่งต่างๆ

ทำหน้าที่ปล่อยคลื่นเสียงที่มีเฟส (Phase) ตรงข้ามกับเเหล่งกำเนิด (เครื่องยนต์หรือใบพัด) เข้าไปหักล้าง
ทำให้เสียงภายในห้องโดยสาร เบาลง เเละลดการสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้น
เช่นเดียวกับเครื่องบินรุ่นอื่นๆ อย่าง A400M,B350,CL601/604,C-130,SF20/SF34 ฯลฯ

..................................

เพิ่มเติมเรื่อง ANVS เพื่อความเข้าใจยิ่งขึ้นครั

http://www2.bombardier.com/q400/en/quiet.jsp#nvs

http://www.ultra-controls.com/productdetails.php?productID=15

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น